นิทานภาษาอังกฤษ พร้อมคำศัพท์น่ารู้
เรื่อง หมีกับนักเดินทาง (The Bear and the Travellers)
Two men were travelling together when one of them saw a bear suddenly charging towards them.
ชายสองคนกำลังเดินทางไปด้วยกัน ทันใดนั้นคนหนึ่งเห็นหมีตัวหนึ่งกำลังวิ่งตรงเข้ามาที่เขาทั้งสอง
Without warning his friend he quickly climbed into a tree and hid himself in the branches.
เขารีบปีนขึ้นต้นไม้ไปอย่างรวดเร็ว และซ่อนตัวอยู่ระหว่างกิ่งไม้ โดยไม่ได้บอกกับเพื่อน
The other, realizing the danger too late, fell flat on the ground and pretended to be dead as well as he could.
วนอีกคนหนึ่งนั้นกว่าจะรู้ถึงอันตรายก็สายเสียแล้ว จึงล้มตัวลงนอนราบกับพื้น แกล้งทำเป็นตายอย่างสุดความสามารถ
วนอีกคนหนึ่งนั้นกว่าจะรู้ถึงอันตรายก็สายเสียแล้ว จึงล้มตัวลงนอนราบกับพื้น แกล้งทำเป็นตายอย่างสุดความสามารถ
The bear come up and prodded him with his snout, sniffing himall over.
หมีเข้ามาใกล้และใช้จมูกดุนที่ตัวของเขาดมไปทั่ว ๆ
หมีเข้ามาใกล้และใช้จมูกดุนที่ตัวของเขาดมไปทั่ว ๆ
The man held his breath and soon the bear ambled away, for it is said that they will not touch a dead body.
ชายผู้นั้นนอนกลั้นหมายใจนิ่ง ในไม่ช้าหมีก็เดินอุ้ยอ้ายจากไป เพราะมีคำกล่าวกันว่าหมีจะไม่แตะต้องคนตาย
ชายผู้นั้นนอนกลั้นหมายใจนิ่ง ในไม่ช้าหมีก็เดินอุ้ยอ้ายจากไป เพราะมีคำกล่าวกันว่าหมีจะไม่แตะต้องคนตาย
When the other man was quite sure that the animal dad gone, he climbed down from the tree and walking over to his friend, asked him “Tell me, what did the bear whisper in your ear, my friend?”
เมื่อชายอีกคนหนึ่งแน่ใจว่าหมีได้จากไปแล้ว เขาจึงไต่ลงมาจากต้นไม้และเดินไปหาเพื่อนพลางถามว่า บอกข้ามาหน่อยซิว่า หมีกระซิบบอกอะไรที่หูของท่าน เพื่อนรัก
เมื่อชายอีกคนหนึ่งแน่ใจว่าหมีได้จากไปแล้ว เขาจึงไต่ลงมาจากต้นไม้และเดินไปหาเพื่อนพลางถามว่า บอกข้ามาหน่อยซิว่า หมีกระซิบบอกอะไรที่หูของท่าน เพื่อนรัก
“Well, he gave me this advice never travel with a friend who deserts you at the approach of danger.”
ได้สิ หมีให้คำแนะนำกับข้าว่า อย่าได้ร่วมเดินทางไปกับเพื่อนผู้ซึ่งละทิ้งเราไปในยามที่มีอันตรายเข้ามาใกล้
ได้สิ หมีให้คำแนะนำกับข้าว่า อย่าได้ร่วมเดินทางไปกับเพื่อนผู้ซึ่งละทิ้งเราไปในยามที่มีอันตรายเข้ามาใกล้
Moral of the story: Misfortune tests the sincerity of friends
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เคราะห์กรรม เป็นเครื่องทดลองน้ำใจอันแท้จริงของเพื่อนฝูง
คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้
travel = เดินทาง
warning = การเตือน
branch = กิ่งไม้
realize = รู้ตัว
pretend = แกล้ง
whisper = กระซิบ
advice = คำแนะนำ
desert = ในที่นี้แปลว่าละทิ้ง
หนูเมืองและหนูชนบท (The Town Mouse and the Country Mouse)
A country mouse lives in the countryside. He likes to eat fruits. He is happy.
หนูเมืองและหนูชนบท หนูนาตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในชนบท มันชอบกินผลไม้ มันอยู่อย่างมีความสุข
หนูเมืองและหนูชนบท หนูนาตัวหนึ่งอาศัยอยู่ในชนบท มันชอบกินผลไม้ มันอยู่อย่างมีความสุข
One day, his cousin comes from the town. The country mouse gathers many fruits for the town mouse, but the town mouse does not like fruit.
วันหนึ่งญาติของหนูนามาเยี่ยมจากในเมือง หนูนารวบรวมผลไม้มากมายไว้ให้หนูบ้านกิน แต่หนูบ้านไม่ชอบกินผลไม้
“This food is horrible!” he says. “Come to the town with me, life in town is much more fun.”
หนูบ้านบอกว่า อาหารพวกนี้ไม่อร่อยเลย เธอเข้าไปในเมืองกับฉันเถอะ ชีวิตในเมืองสนุกสนานกว่าที่นี่มากนัก
หนูบ้านบอกว่า อาหารพวกนี้ไม่อร่อยเลย เธอเข้าไปในเมืองกับฉันเถอะ ชีวิตในเมืองสนุกสนานกว่าที่นี่มากนัก
So, the country mouse follows his cousin to the town. They come to a big house. They enter under the back door. The town mouse leads the country mouse to a dining room. The table is covered with food. They start to eat up the food. The country mouse is happy.
ดังนั้นหนูนาจึงติดตามญาติของมันเข้าไปในเมือง พวกมันเดินทางมาถึงบ้านใหญ่หลังหนึ่ง พวกมันมุดลอดใต้ประตูหลังบ้านเข้าไปในบ้าน หนูบ้านพาหนูนาเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร บนโต๊ะอาหารมีอาหารวางอยู่มากมาย พวกมันเริ่มกินอาหารเป็นการใหญ่ หนูนารู้สึกมีความสุข
ดังนั้นหนูนาจึงติดตามญาติของมันเข้าไปในเมือง พวกมันเดินทางมาถึงบ้านใหญ่หลังหนึ่ง พวกมันมุดลอดใต้ประตูหลังบ้านเข้าไปในบ้าน หนูบ้านพาหนูนาเข้ามาในห้องรับประทานอาหาร บนโต๊ะอาหารมีอาหารวางอยู่มากมาย พวกมันเริ่มกินอาหารเป็นการใหญ่ หนูนารู้สึกมีความสุข
“This food is delicious!” he says. Suddenly, there is a noise. The mice run to hide behind the food.
มันพูดว่า อาหารพวกนี้ช่างอร่อยเหลือเกิน! ทันใดนั้นมีเสียงบางอย่างดังแว่วเข้ามา หนูทั้งสองวิ่งไปหลบซ่อน
มันพูดว่า อาหารพวกนี้ช่างอร่อยเหลือเกิน! ทันใดนั้นมีเสียงบางอย่างดังแว่วเข้ามา หนูทั้งสองวิ่งไปหลบซ่อน
“Keep very still,” says the town mouse. The country mouse is very afraid. A cat comes into the room. He looks around the room. The cat jumps up on the table.
อยู่หลังกองอาหาร หนูบ้านบอกหนูนาว่า อยู่เฉย ๆ ไว้นะ หนูนารู้สึกกลัวมาก แมวตัวหนึ่งเดินเข้ามาในห้องอาหาร มันหันไปมองรอบ ๆ ห้อง แมวตัวนั้นกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะอาหาร
อยู่หลังกองอาหาร หนูบ้านบอกหนูนาว่า อยู่เฉย ๆ ไว้นะ หนูนารู้สึกกลัวมาก แมวตัวหนึ่งเดินเข้ามาในห้องอาหาร มันหันไปมองรอบ ๆ ห้อง แมวตัวนั้นกระโดดขึ้นไปบนโต๊ะอาหาร
“Run!” cries the town mouse. The mice run into a mouse hole.
หนูบ้านร้องว่า วิ่งหนีเร็ว! หนูทั้งสองวิ่งเข้าไปในรูหนู
หนูบ้านร้องว่า วิ่งหนีเร็ว! หนูทั้งสองวิ่งเข้าไปในรูหนู
“Good-bye, cousin” says the country mouse. “I am going back to the country. There, it is quiet and safe.”
หนูนาพูดกับหนูบ้านว่า ลาก่อนน่ะ ญาติที่รัก ฉันกำลังจะกลับไปที่ชนบท ที่นั่นมันปลอดภัยและเงียบสงบดีกว่าที่นี่
หนูนาพูดกับหนูบ้านว่า ลาก่อนน่ะ ญาติที่รัก ฉันกำลังจะกลับไปที่ชนบท ที่นั่นมันปลอดภัยและเงียบสงบดีกว่าที่นี่
Moral of the story: It is better to live a simple, quiet life than a rich, dangerous one.
นิทานเรื่องสอนให้รู้ว่า ความพอดีและพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่นั้นเป็นสิ่งที่เลิศที่สุด..ชีวิตที่เพียงพอและเรียบง่ายย่อม เป็นสุขกว่าชีวิตที่ต้องคอยหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา
นิทานเรื่องสอนให้รู้ว่า ความพอดีและพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่นั้นเป็นสิ่งที่เลิศที่สุด..ชีวิตที่เพียงพอและเรียบง่ายย่อม เป็นสุขกว่าชีวิตที่ต้องคอยหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา
คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้
countryside = เขตชนบท
cousin = ลูกพี่ลูกน้อง
horrible = แย่
dining room = ห้องอาหาร
delicious = อร่อย
still = นิ่ง
afraid = กลัว
หนูกับกบ (The Rat and The Frog)
One day, a country rat wanted to go to town. He prepared himself and started his journey.
วันหนึ่ง หนูชนบทตัวหนึ่งต้องการที่จะเข้าไปในเมือง มันเตรียมความพร้อมของตัวเองและเริ่มการเดินทาง
วันหนึ่ง หนูชนบทตัวหนึ่งต้องการที่จะเข้าไปในเมือง มันเตรียมความพร้อมของตัวเองและเริ่มการเดินทาง
It was hot on the way. So the rat was tired and thirsty. He then stopped near a big pond to drink water for refreshing himself. Near that pond, there lived a frog.
ระหว่างการเดินทางอากาศร้อนมาก หนูจึงรู้สึกเหนื่อยอ่อนและกระหายน้ำ มันจึงหยุดพักบริเวณใกล้สระน้ำใหญ่แห่งหนึ่งเพื่อดื่มน้ำ ใกล้ๆสระน้ำแห่งนั้น มีกบตัวหนึ่งอาศัยอยู่
ระหว่างการเดินทางอากาศร้อนมาก หนูจึงรู้สึกเหนื่อยอ่อนและกระหายน้ำ มันจึงหยุดพักบริเวณใกล้สระน้ำใหญ่แห่งหนึ่งเพื่อดื่มน้ำ ใกล้ๆสระน้ำแห่งนั้น มีกบตัวหนึ่งอาศัยอยู่
When the rat saw the frog, he walked straight towards him. He forced the frog to take him to the other side of the pond, but the frog refused. The rat beat up the frog badly.
เมื่อหนูบ้านเห็นกบ มันเดินตรงเข้าไปหากบทันที มันบังคับให้กบพามันข้ามสระน้ำไปอีกฝากหนึ่ง แต่กบปฏิเสธที่จะทำตามเช่นนั้น หนูจึงเข้าทุบตีกบอย่างหยาบคาย
เมื่อหนูบ้านเห็นกบ มันเดินตรงเข้าไปหากบทันที มันบังคับให้กบพามันข้ามสระน้ำไปอีกฝากหนึ่ง แต่กบปฏิเสธที่จะทำตามเช่นนั้น หนูจึงเข้าทุบตีกบอย่างหยาบคาย
So the frog had to give up and agreed to take him across the pond. The rat was afraid that the frog might leave him in the middle of the pond, so he tied his leg with the frogs leg.
ทำให้กบจำใจยินยอมที่จะพาหนูข้ามสระน้ำไปอีกฟากฝั่ง หนูเกรงว่ากบจะทิ้งมันขณะที่อยู่กลางสระ มันจึงมัดขาตัวเองไว้กับขาของกบ
When they were in the middle of the pond, the frog stoped swimming, wanting the rat to drown. The rat tried to swim to save himself from drowning while the frog looked on with satisfaction.
เมื่อมาถึงกลางสระน้ำ กบหยุดว่ายน้ำเพราะต้องการให้หนูจมน้ำ หนูพยายามว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอดในขณะที่กบมองดูด้วยความพอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทำให้กบจำใจยินยอมที่จะพาหนูข้ามสระน้ำไปอีกฟากฝั่ง หนูเกรงว่ากบจะทิ้งมันขณะที่อยู่กลางสระ มันจึงมัดขาตัวเองไว้กับขาของกบ
When they were in the middle of the pond, the frog stoped swimming, wanting the rat to drown. The rat tried to swim to save himself from drowning while the frog looked on with satisfaction.
เมื่อมาถึงกลางสระน้ำ กบหยุดว่ายน้ำเพราะต้องการให้หนูจมน้ำ หนูพยายามว่ายน้ำเพื่อเอาชีวิตรอดในขณะที่กบมองดูด้วยความพอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
Meanwhile, there was a hawk flying by the pond and saw the two animals. The hawk grabbed both of them for his meal.
ในขณะนั้นนกเหยี่ยวตัวหนึ่งที่กำลังบินอยู่มองเห็นสัตว์ทั้งสอง เหยี่ยวตัวนั้นจึงจับสัตว์ทั้งสองไปเป็นอาหารของมัน
ในขณะนั้นนกเหยี่ยวตัวหนึ่งที่กำลังบินอยู่มองเห็นสัตว์ทั้งสอง เหยี่ยวตัวนั้นจึงจับสัตว์ทั้งสองไปเป็นอาหารของมัน
Moral of the story: Forcing and threatening others will cause sin to return to yourself.
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การบังคับขู่เข็ญผู้อื่นนั้นบาปกรรมจะตกแก่ตนเอง
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การบังคับขู่เข็ญผู้อื่นนั้นบาปกรรมจะตกแก่ตนเอง
คำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้
prepare = เตรียมตัว
journey = การเดินทาง
force = บังคับ
refuse = ปฏิเสธ
give up = ยอมแพ้
drown = จมน้ำ
satisfaction = พอใจ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น